ในแต่ละพื้นที่นั้นก็ต่างมีความเชื่อที่หลากหลายกัน และ แต่ละพื้นที่เองก็มีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ซึ่งประเทศไทยเองก็มีทั้งความเชื่อและการเลี้ยงลูกน้อยที่แตกต่างจากต่างประเทศด้วยเช่นกัน ซึ่งในแต่ลประทศนั้นก็มีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันด้วยเช่นกันดังนั้นในบทความนี้เราจะมาดูกันดีกว่านะครับว่าต่างประเทศนั้นมีการเลี้ยงลูก และ สอนลูกอย่างไรบ้าง จะเหมือนกับคนไทยของเราหรือไม่  

ไม่ซื้อของเล่นให้มากเกินไป  

สำหรับต่างประเทศนั้นจะมีการสอนให้ลูกน้อยนั้นเห็นคุณค่าของเล่นที่ตัวเองมีมากกว่า ดังนั้นของเล่นส่วนมากนั้นจะไม่ได้ถูกซื้อให้บ่อยมากด้วยเช่นกัน เพราะว่าการเลี้ยงลูกในต่างประเทศนั้นจะซื้อของเล่นเด็กเสริมพัฒนาการให้กับเด็ก ๆ ไว้และเล่นในระยะยาวเพื่อให้เห็นคุณค่าของของเล่นชิ้นนั้น และ จะได้เห็นคุณค่าและมีการเก็บรักษาของเล่นของตัวเองให้ดีเพื่อไม่ให้ของเล่นของเราเสียหาย  

เปิดกว้างความคิดของเด็ก ๆ  

ต่างประเทศนั้นจะเป็นการเปิดกว้างในความคิดอย่างมากโดยเฉพาะในเรื่องของการแสดงของการเล่น  ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทย เพราะว่าประเทศนั้นจะคอยห้ามเด็ก ๆ ว่า “ตรงนี้เลอะ ตรงนั้นเปื้อน” ไม่ควรไปเล่น แต่ว่ากลับกันสำหรับต่างประเทศนั้นจะมีการเปิดกว้างในเรื่องนี้อย่างมาก  ให้พวกเด็ก ๆ ได้เล่นแบบไม่มีขีดขำกัด ถึงขนาดว่าหากว่าเด็ก ๆ กลับมาเสื้อผ้าสะอาด สะอ้านพ่อแม่ เด็ก ๆ นั้นจะคิดว่าลูก ๆ ของเขาไม่เล่น หรือ ไม่ได้ไปไหนเลย  

ส่งเสริมครอบครัว  

ในต่างประเทศนั้นจะเห็นค่าในเรื่องของ “ความสัมพันธ์” ของครอบครัวอย่างมาก ซึ่งบางประเทศนั้นให้สิทธิ์การลาของพนักงานอย่างคุณพ่อด้วย โดยบางประเทศนั้นสามารถลาได้สูงสุด 6 เดือนเลยก็ว่าได้ เช่น นอร์เวย์ลาได้ 6 เดือน เดนมาร์กลาได้ 4 เดือน และ สวีเดน 3 เดือน  นั้นจึงแสดงให้เห็นว่าต่างประเทศนั้นส่งเสริมสิทธิ์การลาของคุณพ่อได้ เพื่อส่งเสริมสายในในครอบครัวด้วยเช่นกัน  

ไม่มีการลงโทษทางร่างกาย  

การลงโทษทางร่างกายแล้ว ประเทศไทยในปัจจุบันนั้นก็ไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว แต่ว่าต่างประเทศนั้นจะมีเลิกลงโทษทางร่างกายไปนานมากแล้สนะครับ ซี่งในปี 1979 นั้นสวีเดนเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการห้ามลงโทษทางร่างกายอย่างเป็นทางการไม่ว่าจะเป็นทางบ้าน หรือ โรงเรียน นั้นจะห้ามลงโทษทางร่างกายเด็ดขาด  หากมีการพบเห็นนั้นสามารถแจ้งตำรวจได้ทันที 

เปิดกว้างของเรื่องของเสื้อผ้า  

ต่างประเทศนั้นจะเปิดกว้าอย่างมากในเรื่องของ “เสื้อผ้า” ไม่ว่าจะเป็นการไม่ใส่บราออกไปที่ข้างนอก ซึ่งจะมีการถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยทางต่างประเทศนั้นจะส่งเสริมให้เด็ก ๆ นั้นสามารถถอดเสื้อผ้า เล่นน้ำได้อย่างปกติ และ จะไม่ดุ หรือ ต่อว่าลูกของตัวเองว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอาย  เพราะว่าเมื่อมีการเล่นสระว่ายน้ำจะไม่ได้รู้สึกเขินนั้นเอง  

และนี้เองเป็นเรื่องของ “การสอน” ของต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นว่ามีความแตกต่างจากคนไทยด้วยเช่นกัน แต่ว่าไม่ใช่ว่าเราจะนำทุกข้อมาใช้ได้นะครับ ถ้าหากว่าเรานั้นจะนำเรื่องของต่างประเทศมาปรับใช้กับการเลี้ยงลูกของเราก็ได้นะครับ